Solar Rooftop ขนาดติดตั้งเท่าไหร่ ถึงเหมาะสมกับโรงงานของคุณ
เพื่อให้สินค้าสามารถแข่งขันราคาในตลาด การลดต้นทุนถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก จากต้นทุนโดยรวมในการผลิตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น ค่าเงิน เชื้อเพลิง วัตถุดิบ หรือแม้กระทั่ง พลังงาน เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต้นทุนในการผลิตสูงขึ้นตามไปด้วย
หากพูดถึงการลดต้นทุนในการผลิตในระดับอุตสาหกรรม เจ้าของกิจการต่าง ๆ จึงเริ่มมองหาทางเลือกใหม่ ๆ ในการลดต้นทุนการผลิต โดยเจ้าของกิจการหลาย ๆ ท่านเลือกที่จะลดต้นทุนด้านพลังงานเป็นอย่างแรก โดยหันไปใช้พลังงานทดแทนที่สามารถผลิตเองได้ อาทิเช่น การผลิตกระแสไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Solar rooftop หรือ การติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์หรือแผงโซล่าเซลล์บนหลังคาอาคาร โรงงานอุตสาหกรรม
ที่มา: https://www.emenergy.co.th/project-reference/
การสำรวจและประเมินการติดตั้ง Solar Rooftop สำหรับโรงงาน
ในการติดตั้งระบบ Solar rooftop หรือการติดตั้งงานระบบอื่น ๆ ภายในโรงงาน แน่นอนว่าทุกงานระบบต้องมีการสำรวจและประเมินความเหมาะสมต่าง ๆ ในการติดตั้งก่อน จึงจะเริ่มขั้นตอนการติดตั้งได้โดยปัจจัยสำคัญในการสำรวจและประเมินการติดตั้ง มีดังต่อไปนี้
1. พื้นที่สำหรับการติดตั้ง Solar Rooftop
ที่มา : https://mekhanews.com/2022
พื้นที่ในการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์นั้นมีความสำคัญมาก ๆ หากติดตั้งแผงโซล่าในพื้นที่ที่ไม่ได้รับแสงอาทิตย์อย่างเพียงพอและทั่วถึง จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการผลิตกระแสไฟฟ้า และอาจทำให้การผลิตกระแสไฟฟ้านั้นไม่เพียงพอต่อการใช้งานตามที่ได้คำนวณไว้
ข้อดีของการติด Solar rooftop คือ เป็นการตั้งติดตั้งระบบบนหลังคาอาคารโรงงานอุตสาหกรรม จึงสามารถรับแสงอาทิตย์ได้อย่างเต็มที่หากไม่มีตึกสูงมาบังทิศทางของแสงอาทิตย์
ดังนั้นปัจจัยที่สำคัญต่อการติดตั้ง Solar rooftop นั้นคือ “ความแข็งแรงของโครงสร้างหลังคา” โดยทีมวิศวกรจะประเมินความแข็งแรงของหลังคาว่าเพียงพอต่อการรับน้ำหนักของแผงโซล่าเซลล์หรือไม่ หากไม่เพียงพอก็จะต้องเสนอต่อเจ้าของกิจการเพื่อทำการเปลี่ยนชิ้นส่วนหลังคาตรงส่วนที่รับน้ำหนักใหม่ เพื่อความปลอดภัยในการติดตั้ง Solar rooftop ในระยะยาว
2.ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าของโรงงาน
ปกติแล้วก่อนการติดตั้งโซล่าเซลล์ที่ใดก็ตาม ควรจะให้ทีมวิศวกรของผู้ติดตั้งเข้าไปสำรวจการใช้ไฟฟ้าของโรงงาน ข้อมูลที่ทีมร้องขอส่วนมากจะเป็นประวัติการใช้ไฟฟ้าหรือ Load Profile จากทางโรงงานเพื่อประเมินความต้องการใช้ไฟฟ้าของโรงงาน
เจ้าของโรงงานสามารถเข้าไปดู Load profile ของโรงงานได้ผ่านทางเว็บไซต์ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA (https://www.amr.pea.co.th/AMRWEB/Index.aspx) ทางทีมผู้ติดตั้งต้องขอ Username และ Password ของโรงงานเพื่อเข้าไปดูข้อมูลและทำการวิเคราะห์เพื่อวางแผนการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ให้ได้พลังงานตามความต้องการใช้ไฟฟ้าของโรงงานให้มากที่สุด
3. ขนาดของแผงโซล่าเซลล์ที่เหมาะสมต่อความต้องการ
ที่มา: https://gec.jp/jcm/projects/15pro_tha_04/
หลังจากได้ข้อมูล Load profile มาแล้วทางทีมผู้ติดตั้งจะทำการคำนวณว่าทางโรงงานจะต้องติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ขนาดเท่าไรและจำนวนเท่าไรบ้างโดย ปัจจัยนี้จะขึ้นอยู่กับขนาดของโรงงานและพื้นที่ของหลังคาโรงงาน โดยส่วนมากจะติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ตั้งแต่ 100 kWp ขึ้นไป
4. ความคุ้มทุนในการติดตั้ง
ที่มา: https://www.emenergy.co.th/project-reference/
เมื่อทีมวิศวกรคำนวณต้นทุนออกมา ทางโรงงานจะทราบว่าค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์นั้นเท่าไหร่ และสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือนได้ประมาณเท่าไหร่
Case study ความคุ้มทุนในการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์กับทาง EMenergy AFTER YOU หนึ่งในบริษัทจำหน่ายขนมหวานและร้านขนมหวานที่ดีที่สุดในประเทศไทย ได้ให้ความไว้วางใจและเลือกใช้บริการจาก EMenergy ในการติดตั้งระบบ Solar Rooftop ขนาด 564.62 kWp ที่โรงงานในจังหวัดสมุทรสาคร โดยก่อนการติดตั้งระบบ Solar Rooftop ทาง EMenergy ได้มีการประเมินประวัติการใช้ไฟฟ้า (Load Profile) ของทางโรงงานพบว่า มีการใช้ไฟฟ้าภายในโรงงาน 81,264 หน่วยก่อนการติดตั้งระบบ แต่หลังจากติดตั้งระบบ Solar Rooftop จาก EMenergy แล้วพบว่าการใช้ไฟฟ้าภายในโรงงานลดลงมาอยู่ที่ 48,348 หน่วย ลดลงมาถึง 32,916 หน่วยหรือลดลงมาประมาณ 41% เลยทีเดียว
5. การดูแลรักษาและการบำรุง
ที่มา: https://www.energycon.solar/en/maintenance-and-monitoring/
การดูแลรักษาระบบ Solar Rooftop แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยเนื่องจากตัวแผงโซล่าเซลล์นั้นส่วนมากจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 25 ปี แต่ก็จะมีแค่ส่วนงานระบบเท่านั้นที่ต้องได้รับการตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องโดยขั้นตอนการบำรุงรักษามีดังนี้
1. การบำรุงรักษาแผงโซล่าเซลล์
ปัญหาส่วนมากของข้อนี้คือเรื่องความสะอาดเนื่องจากตัวแผงโซล่าเซลล์ติดตั้งอยู่บนหลังคาจึงต้องพบเจอกับฝุ่นและสิ่งสกปรกต่างๆตลอดเวลา วิธีการทำความสะอาดสามารถทำได้โดยการฉีดน้ำล้างหน้าแผงหรือใช้ฟองน้ำชุบน้ำเช็ดที่หน้าแผง โดยขั้นตอนนี้ควรจะทำทุกๆ 3-6เดือน เพื่อประสิทธิภาพในการผลิตกระแสไฟฟ้า
2. การบำรุงรักษาอุปกรณ์
ในการติดตั้งระบบ Solar rooftop แน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับอุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้าหรือที่เรียกกันว่า Inverter นอกจากนี้ยังมีชุดควบคุมระบบต่างๆด้วย การบำรุงรักษาส่วนมากจะทำการตรวจสอบการทำงานว่าตัวอุปกรณ์ยังทำงานปกติหรือไม่ และตรวจดูความสะอาดเรียบร้อยว่าไม่มีสิ่งสกปรก ฝุ่น หรือสัตว์ เช่น หนู เข้าไปภายในตัวอุปกรณ์ โดยหากพบว่ามีฝุ่นเกาะอุปกรณ์เยอะก็สามารถใช้เครื่องเป่าลม เป่าทำความสะอาดได้ ห้ามใช้น้ำโดยเด็ดขาด
3. ตรวจสอบสายไฟ
ตรวจเช็ครอบๆสายไฟและการเชื่อมต่อเป็นประจำ หากมีรอยฉีกขาดหรือชำรุดให้รีบเปลี่ยนโดยทันทีเพื่อความปลอดภัย โดยปิดการทำงานของระบบก่อนทำการเปลี่ยนสายไฟทุกครั้ง
4. ตรวจเช็คแบตเตอรี่
หากทางโรงงานมีการติดตั้งแบตเตอรี่เพื่อสำรองไฟเพื่อใช้งาน ควรมีการตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ อย่างเช่น รอยกัดกร่อนบริเวณขั้วแบตเตอรี่ หรือ รอยแตกร้าวบริเวณก้อนแบตเตอรี่
ปัจจุบันมีหลายโรงงานและหลายกิจการเริ่มหันมาติดตั้ง Solar rooftop กันมากขึ้นทำให้ Solar rooftopได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่โรงงานอุตสาหกรรมเพราะนอกจากต้นทุนในการติดตั้งที่ถูกลงกว่าในอดีต และพื้นที่ในการติดตั้งที่ไม่ต้องเปลืองพื้นที่โดยใช้หลังคาของโรงงานเป็นที่วาง Solar panel (แผงโซล่าเซลล์)
แล้วยังสามารถเห็นผลได้หลังจากการติดตั้งทันที และประเทศไทยตอนนี้มีการสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมหันมาติดตั้ง Solar rooftop กันมากขึ้นโดยหลายสถาบันการเงินเริ่มมีการออกนโยบายปล่อยสินเชื่อสำหรับการติดตั้ง Solar rooftop หรือที่เรียกกันว่า สินเชื่อโซล่าเซลล์ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.emenergy.co.th/รับสินเชื่อโซล่าเซลล์
“อยากประหยัดค่าไฟ ไว้ใจ EM Energy” ผู้เชี่ยวชาญด้านการลดค่าไฟด้วยการติดตั้งโซล่าเซลล์
สามารถดูผลงานของเราเพิ่มเติมได้ที่
EM Energy : https://www.emenergy.co.th/project-reference/
ติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำปรึกษาฟรีได้ที่
อีเมล : onrampa@emenergy.co.th , mana@emenergy.co.th
Line : @emenergy
Facebook Fanpage : EM Energy
โทร : 084-671-5999
