EV Charging Station ธุรกิจใหม่ที่น่าลงทุน ?

  • Home
  • EV Charging Station ธุรกิจใหม่ที่น่าลงทุน ?
Image

EV Charging Station ธุรกิจใหม่ที่น่าลงทุน ?

 

โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปเมื่อรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเข้ามาแทนที่รถยนต์น้ำมัน ทำให้ตอนนี้หลาย ๆ องค์กรภายในประเทศไทยเริ่มมีการทำที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV Charging Station มากขึ้น แต่ทว่ามีการตั้งคำถามว่าธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่น่าลงทุนจริงหรือไม่ วันนี้ EMenergy ขอพาทุกท่านไปร่วมกันหาคำตอบเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจการลงทุนในธุรกิจนี้

1.   ความนิยมของรถยนต์ EV หรือ รถยนต์ไฟฟ้า

 

ที่มา : https://www.evconnect.com/

รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้านั้นคือรถยนต์ไฟฟ้า หรือ “Electric Vehicle (EV) ” โดยรถยนต์ไฟฟ้านั้นใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่มาเป็นเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนรถยนต์แทนการใช้น้ำมัน

1.1 ข้อดีของการใช้พลังงานไฟฟ้าแทนการใช้น้ำมัน
  • รถยนต์ไฟฟ้าไม่มีท่อไอเสียจึงไม่มีการปล่อย”คาร์บอนไดออกไซด์”ออกมาเป็นมลพิษทางอากาศ 100%
  • การชาร์จไฟให้รถยนต์นั้นมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าการเติมน้ำมันมากกว่าครึ่งเลยทีเดียว
โดยในปัจจุบันรถยนต์ EVกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยยอดจองรถยนต์ EV ภายในงาน 44th Bangkok International Motor Show 2023 มียอดจองทั้งสิ้น 9,234 คัน (คิดเป็น 21.5% จากยอดจองรถยนต์ทั้งหมด) โดยในปีก่อนหน้านี้มียอดจองทั้งหมด 3,084 คัน เพิ่มขึ้นมาจากปีก่อนถึง 199.4% (ที่มา: https://autolifethailand.tv )

 

2.   พลังงานของรถยนต์ EV และราคาในการชาร์จ

 

ที่มา : https://www.pea.co.th/Portals/0/Document/SNB/33.png

ราคาเชื้อเพลิงคืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลาย ๆ คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น เนื่องจากความผันผวนของราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับราคาการชาร์จด้วยไฟฟ้านั้นพบว่า การหันมาใช้พลังงานไฟฟ้านั้นมีราคาที่ถูกกว่าการเติมน้ำมันมาก

โดยหากอ้างอิงข้อมูลของทาง PEA Volta จะพบว่าสถานีชาร์จไฟประเภทชาร์จเร็วหรือ ”Fast charger” ซึ่งนิยมใช้กันในสถานีชาร์จมีการคิดอัตราค่าอัดประจุไฟฟ้าอยู่ที่ 7.3 บาท/หน่วย (on peak) และ 5.3 บาท/หน่วย (off peak) โดยส่วนมากรถยนต์ EV จะกินไฟประมาณ 5 km / หน่วยไฟฟ้า (1 หน่วยไฟฟ้า = 1 kWh) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการขับขี่ของเจ้าของด้วย หากเทียบกับการเติมน้ำมันซึ่งราคาน้ำมันทุกชนิดและทุกผู้ให้บริการ ณ เดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2566 อยู่ที่ ลิตรละ 30-50 บาท โดยรถเก๋งทั่วไปจะมีขนาดถังน้ำมันอยู่ที่ 40-60 ลิตร

 

การคำนวณความคุ้มทุนของการใช้รถไฟฟ้าและรถน้ำมัน

หากลองคำนวนค่าน้ำมันโดยใช้ราคาน้ำมันกับความจุถังน้ำมันที่น้อยที่สุดเป็นตัวตั้ง

  • การเติมน้ำมันเต็ม 1 ถังจะอยุ่ที่ 30 (บาท/ลิตร) X 40 (ลิตร) = 1200 บาท
  • ขณะที่การชาร์จรถ EV ความจุแบตเตอรี่ 100 kWh จะอยู่ที่ 500-750 บาทเท่านั้น
รถยนต์ EV : อัตราความสิ้นเปลืองของรถ EV จะเฉลี่ยอยู่ที่ 0.6 - 1 บาทต่อกิโลเมตร
รถยนต์น้ำมัน : อัตราสิ้นเปลืองของรถน้ำมัน จะเฉลี่ยอยู่ที่ 3 บาทต่อกิโลเมตร 
**ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดเครื่องยนต์ รุ่นรถ อายุการใช้งานและพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่เองด้วย** 
(ที่มา: https://www.viriyah.com)
3.   ระยะเวลาในการคืนทุน

ที่มา : https://stock.adobe.com/

 

คำถามที่พบเจอกันเป็นประจำสำหรับนักลงทุนในการเลือกลงทุนคือ “เมื่อลงทุนไปแล้วจะคืนทุนเมื่อไร” คำถามนี้สำคัญมากเพราะถือเป็นคำถามชี้ชะตาของนักลงทุนว่าจะเลือกลงทุนในธุรกิจนั้นหรือไม่ โดยปัจจัยหลักในการตัดสินใจก็คือ “เงินลงทุน” หรือ “ต้นทุน”

 

โดยการลงทุนใน EV Charging Station แบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่

 

3.1 การซื้ออุปกรณ์และปรับปรุงพื้นที่เพื่อรองรับสถานีชาร์จ EV Charging Station

สถานที่คืออีกหนึ่งปัจจัยในการลงทุน โดยเฉพาะกับธุรกิจ EV Charging Station ถ้าหากผู้ลงทุนนั้นมีสถานที่หรือที่ดินเป็นของตัวเองแล้วก็ไม่ต้องมีเรื่องให้ต้องกังวลเพราะสามารถลงทุนในพื้นที่ของตัวเองได้เลย เช่น เจ้าของคอนโด, อพาร์ทเม้นท์ หรือ อาคารต่าง ๆ โดยทั้งนี้หากผู้ลงทุนมีที่ดินเปล่าทำเลดีก็สามารถนำมาลงทุนได้เช่นกัน

แต่หากไม่ได้ลงทุนในพื้นที่ของตัวเองผู้ลงทุนก็อาจจะต้องพบเจอกับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าเช่าพื้นที่ หรือ ทำการซื้อพื้นที่นั้นเลย หากผู้ลงทุนมีงบ ประมาณที่มากพอ การซื้อขาดพื้นที่นั้นอาจจะเป็นทางออกที่ดีกว่าการเช่าเนื่องจากที่ดินมีการปรับราคาขึ้นทุกปี เรียกได้ว่าเมื่อผู้ลงทุนอยากเลิกทำธุรกิจนี้แล้ว ก็ยังสามารถขายพื้นที่ที่ซื้อมาได้ในราคาที่มากกว่าตอนซื้อแน่นอน

 

3.2 การเลือกซื้อแท่นชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

โดยสถานีชาร์รถยนต์ไฟฟ้าจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

  1. AC (Alternative Current) คือที่ชาร์จรถไฟฟ้ากระแสสลับ โดยสามารถชาร์จรถไฟฟ้าได้สูงสุด 22 kW ใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 5-7 ชั่วโมง
  2. DC (Direct Current) เป็นที่ชาร์จรถไฟฟ้ากระแสตรงหรือแท่นชาร์จแบบชาร์จเร็ว โดยสามารถชาร์จรถไฟฟ้าได้สูงถึง 250 kW ใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 1-2 ชั่วโมง โดยความเร็วในการชาร์จจะขึ้นอยู่กับขนาดแบตเตอรี่ของรถยนต์ด้วย
ราคาของแท่นชาร์จจะขึ้นอยู่กับกำลังไฟและสเปกแต่ละยี่ห้อ โดย ณ ปัจจุบันราคาของแท่นชาร์จมีตั้งแต่ 20,000 ไปจนถึง 100,000 บาทเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมี “ค่าเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้า” ในกรณีที่มิเตอร์เดิมไม่สามารถรองรับกำลังไฟของแท่นชาร์จได้

 

บทสรุป EV Charging Station น่าลงทุนจริงหรือไม่

ปัจจัยสำคัญที่สุดของการลงทุนคือ “ความคุ้มทุน” ซึ่งความคุ้มทุนหรือจุดคุ้มทุนนั้นจะเกิดจากการลงทุนไปแล้วได้ต้นทุนกลับมาครบถ้วนในระยะที่สมความ เพราะถ้าหากใช้ระยะเวลาในการคืนทุนนานเกินไป ผู้ลงทุนก็อาจจะตัดสินใจไม่ลงทุนในธุรกิจนั้นก็เป็นได้แต่ถ้าหากธุรกิจนั้นสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลาอันสั้น รายได้ที่เหลือต่อจจากนั้นก็จะเป็นกำไรทั้งสิ้น โดยจุดคุ้มทุนของ EV Charging Station นั้นขึ้นอยู่กับจำนวนและพฤติกรรมของผู้ใช้รถยนต์ EV

ซึ่งในตอนนี้ความนิยมในการใช้รถยนต์ EV กำลังพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งหมายความว่าอีกไม่นานรถยนต์ EV จะครองถนนและพื้นที่จอดในประเทศอย่างแน่นอน และสิ่งที่ตามมาคือความต้องการชาร์จไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยถ้าหากผู้ลงทุนนั้นลงทุนได้เร็วก็สามารถคืนทุนได้เร็วเช่นกันโดยระยะเวลาคืนทุนที่เร็วที่สุดคือ 1 ปี (แหล่งอ้างอิง: https://www.youtube.com/watch?v=nCMVe_m-PTc)

 

ติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำปรึกษาฟรีได้ที่

อีเมล : onrampa@emenergy.co.th , mana@emenergy.co.th

Line : @emenergy

Facebook Fanpage : EM Energy

โทร  : 084-671-5999

 

“ อยากประหยัดค่าไฟ ไว้ใจ EM Energy ผู้เชี่ยวชาญด้านการลดค่าไฟด้วยการติดตั้งโซล่าเซลล์ ”

 

สามารถดูผลงานของเราเพิ่มเติมได้ที่

EM Energy : https://www.emenergy.co.th/project-reference/