คนไทยกำลังเผชิญกับภาระค่าไฟที่สูงขึ้น ในปี 2567 เนื่องจากการบริหารของหน่วยงานรัฐ ทำให้ค่า Fuel tariff (Ft) เพิ่มขึ้นเกินจริง และกฟผ. (การไฟฟ้าฝ่ายผลิต) มีหนี้สูงถึง 95,777 ล้านบาท รัฐบาลจึงลดค่าไฟเหลือยูนิตละ 3.99 เพื่อบรรเทาภาระการชำระเงินของประชาชนในช่วงนี้ ซึ่งการลดค่าไฟนี้ไม่คาดหวังว่าจะถูกนำไปใช้ต่อไป เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นและหนี้สะสมที่สูง จึงมีโอกาสที่ประชาชนจะต้องจ่ายค่าไฟต่ำสุดที่ยูนิตละ 4.68 ต่อหน่วย หรือสูงถึง 5.95 ในอนาคต ขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจของบอร์ด กกพ. และกระทรวงพลังงาน
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยว่า มาตรการให้เงินสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน (FiT) และเงินส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) ทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 18.95 สตางค์ต่อหน่วย หรือรวมเป็น 11,919 ล้านบาทในงวดเดือน ม.ค.- เม.ย. 2567 ทางกกพ. ยังอยู่ในขั้นตอนรับฟังความเห็นประชาชนเกี่ยวกับค่าไฟฟ้าในระหว่างวันที่ 10 – 24 พ.ย. 2566 และได้กำหนดอัตราค่าไฟฟ้าออกเป็น 3 กรณี
กรณีที่ 1: ในกรณีที่จ่ายคืนหนี้กฟผ.ทั้งหมดในงวดเดียว จะทำให้ค่า Fuel tariff (Ft) เพิ่มขึ้นเป็น 216.42 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บ (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) งวด ม.ค.- เม.ย. 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 5.95 บาทต่อหน่วย
กรณีที่ 2: ในกรณีที่จ่ายคืนหนี้กฟผ.ภายใน 1 ปี ค่า Ft จะเพิ่มขึ้นเป็น 114.93 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) งวด ม.ค.- เม.ย. 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 4.93 บาทต่อหน่วย
กรณีที่ 3: ในกรณีที่จ่ายคืนหนี้กฟผ.ภายใน 2 ปี ค่า Ft จะเพิ่มขึ้นเป็น 89.55 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) งวด ม.ค.- เม.ย. 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 4.68 บาทต่อหน่วย
การคืนหนี้กฟผ.และการจ่ายค่าไฟฟ้าที่มีการปรับค่า Fuel tariff จะมีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าที่ประชาชนต้องจ่ายในระหว่าง ม.ค.- เม.ย. 2567 และผลการตัดสินใจนี้จะถูกนำเสนอให้บอร์ด กกพ.พิจารณาและรับฟังความเห็นประชาชนก่อนที่จะประกาศค่าไฟฟ้าต่อไป
กกพ.มองว่าการใช้พลังงานทดแทนเป็นเชื้อเพลิงทำให้ต้นทุนไฟฟ้าเพิ่มขึ้น แต่ความเห็นนี้ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน เนื่องจากพลังงานทดแทนมีส่วนสำคัญในการผลิตไฟฟ้าโดยไม่ใช้เชื้อเพลิงเชิงพาณิชย์ เช่น พลังงานลม และแสงอาทิตย์ และไม่ได้ใช้กับการผลิตไฟฟ้าในประเทศ
การนำราคา Gas Pool Price มาคำนวณทำให้ค่า Fuel tariff (Ft) เพิ่มขึ้น โดยการใช้ราคา gas จากแหล่งต่าง ๆ ทำให้กกพ.มีความเห็นแย้ง โดยกล่าวว่าราคาไม่เท่ากัน และมีส่วนต่างของราคาจริง ๆ ค่า Ft ที่สูงขึ้นมาจากราคา gas ที่สูง โรงแยก gas จากต่างประเทศ และก๊าซธรรมชาติ LNG ที่นำเข้ามีส่วนต่างของราคาจริง ๆ ทำให้ค่า Ft สูงเกินจริง และเป็นภาระผูกพันมานานรัฐบาลได้ประกาศลดค่าไฟเพื่อบรรเทาภาระการใช้จ่ายของประชาชน โดยการนำส่วนต่างไปดองเก็บในค่า AF แล้วประกาศลดค่าไฟ ทำให้ค่า Ft ราคาลงเป็น 20.48 สตางค์ต่อหน่วย แต่ค่า Ft นี้ทำให้เกิดภาระผูกพันมานาน ก่อนที่จะถูกเรียกเก็บในอนาคต
คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานได้นำเสนอตัวเลือกในการปรับค่า Ft ในเดือนม.ค.-เม.ย. 2567 ที่เกิดจากราคา gas ที่สูง และมีตัวเลือกที่มีค่า Ft ที่อยู่ที่ 89.55 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) งวด ม.ค.-เม.ย. 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 4.68 บาทต่อหน่วย โดยคาดว่าน่าจะเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดที่ประชาชนจะต้องจ่าย ในทางกลับกัน กกพ.ได้ทำการลดค่า Ft ในรอบก่อน ๆ ทำให้ค่า Ft ช่วงปี 2564-2565 ติดลบตลอด
ในส่วนของการคาดการณ์ค่าไฟที่ต้องจ่ายในปี 2567 นี้ ควรให้ทุกบุคคลที่ใช้ไฟฟ้านำจำนวนยูนิตที่ใช้คูณด้วยค่าไฟต่อยูนิต บวกภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าบริการ เพื่อเห็นว่าต้องจ่ายค่าไฟเพิ่มเท่าไหร่ และผลกระทบต่อธุรกิจต่าง ๆ ต้องเตรียมรับมือกับค่าไฟที่เพิ่มขึ้นในปี 2567 ทางเลือกในการเตรียมตัวให้พร้อมกับการปรับขึ้นค่าไฟในต้นปีหน้า หนึ่งในนั้นคือการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ไม่เพียงช่วยลดค่าไฟยังช่วยเพิ่มมูลค่าอีกด้วย
ติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำปรึกษาฟรีได้ที่
อีเมล : onrampa@emenergy.co.th , mana@emenergy.co.th
Line : @emenergy
Facebook Fanpage : EM Energy
โทร : 084-671-5999
“ อยากประหยัดค่าไฟ ไว้ใจ EM Energy ผู้เชี่ยวชาญด้านการลดค่าไฟด้วยการติดตั้งโซล่าเซลล์ ”
สามารถดูผลงานของเราเพิ่มเติมได้ที่
EM Energy : https://www.emenergy.co.th/project-reference/
ที่มาของข่าว : https://mgronline.com/specialscoop/detail/9660000102478
